ภาคเหนือ
ภาคเหนือเป็นดินแดนที่ร่ำรวยด้วยภูมิประเทศงดงาม
รายล้อมด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนอันอุดมไปด้วยผืนป่า งดงามด้วยประเพณีวัฒนธรรม
และอบอุ่นด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายเปี่ยมน้ำใจสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวในภาคเหนือ
เรารวบรวมข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวทุกจังหวัดมาไว้ที่นี่แล้ว
เพียงคุณคลิกที่ชื่อจังหวัดซึ่งอยู่ด้านล่างนี้
ก็จะได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของจังหวัด จำนวนประชากร
ขนาดพื้นที่และอาณาเขต การเดินทาง ที่พัก สถานที่ที่น่าสนใจ อาหารและเครื่องดื่ม
กิจกรรมที่น่าสนใจ งานเทศกาลและประเพณีที่สำคัญ ทัวร์และแพ็กเกจทัวร์ ข้อเสนอพิเศษ
ช็อปปิ้ง อย่างครบครัน
จังหวัดเชียงใหม่
ถ้านึกถึงภาคเหนือจังหวัดที่ขึ้นชื่อในภาคเหนือก็คือ จังหวัดเชียงใหม่ดินแดนแห่งความงดงามด้านประเพณีและวัฒนธรรม คำขวัญจังหวัดมีอยู่ว่า ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า
บุปผชาติล้วนงานตา นามล้ำค่านครพิงค์ เชียงใหม่
หรือชื่อเดิม “นพบุรีศรีนครพิงค์” ก่อตั้งเป็นราชธานีแห่งอาณาจักรล้านนาเมื่อกว่า 700 ปีก่อน
โดยพญาเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย ต่อมาในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
เชียงใหม่มีฐานะเป็นเมืองประเทศราชและเมื่อมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมืองเชียงใหม่จึงเปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลพายัพ
และกลายเป็นจังหวัดในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชียงใหม่นับเป็นศูนย์กลางของจังหวัดในภาคเหนือ
โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว
ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางด้านธรรมชาติอันงดงาม
ด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์น่าประทับใจ
และความพรั่งพร้อมในเรื่องสถานที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ที่หลากหลาย
เป็นที่ดึงดูดคนมาท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปี
จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ 20,107.057 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 12,566,911 ไร่ มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 1 ของภาคเหนือ
และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ
รองจากจังหวัดนครราชสีมา
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและป่าละเมาะ
มีที่ราบอยู่ตอนกลางตามสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง มีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ
ดอยอินทนนท์ สูงประมาณ 2,565.3355 เมตร
อยู่ในเขตอำเภอจอมทอง นอกจากนี้ยังมีดอยอื่นที่มีความสูงรองลงมาอีกหลายแห่ง เช่น
ดอยผ้าห่มปก สูง 2,285 เมตร ดอยหลวงเชียงดาว สูง 2,170 เมตร ดอยสุเทพ สูง 1,601 เมตร จังหวัดเชียงใหม่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี
มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 25.4 องศาเซลเซียส
โดยมีค่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.8 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซียส
มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100-1,200 มิลลิเมตร
สภาพภูมิอากาศจังหวัดเชียงใหม่อยู่ภายใต้อิทธิพลมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
แบ่งภูมิอากาศออกได้เป็น 3 ฤดู
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม ตั้งอยู่ ณ ตำบลพระสิงห์
ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุด ซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมาแห่งราชวงศ์มังราย
และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานนานถึง 80 ปี หน้าประตูทางเข้าวิหารมีบันไดนาคคู่เลื้อยงดงามตาและในวัดยังมีเสาอินทขิล
หรือเสาหลักเมือง เสาอินทขิลนี้สร้างจากไม้ซุงต้นใหญ่ฝังอยู่ใต้ดิน
ประดิษฐานในวิหารจัตุรมุขทรงไทยและในทุกปีจะมีงานเข้าอินทขิลเพื่อเป็นการฉลองเสาหลักเมือง
หน้าประตูทางเข้ามีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิม
เชื่อกันว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดในภาคเหนือ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดที่พญาผายู
ในราชวงศ์มังรายโปรดเกล้าฯให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู
พระราชบิดา มีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งซึ่งจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปรอบเมืองในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อให้ประชาชนสรงน้ำ
นั่นคือ พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
อีกทั้งวัดนี้ได้ประดิษฐานพระธาตุประจำปีนักษัตรมะโรงอีกด้วย
เวียงกุมกาม เป็นเมืองโบราณที่เป็นเมืองหลวงเก่าของล้านนา
ที่ถูกสร้างโดยพ่อขุนเม็งราย แต่เนื่องจากเกิดน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้งในช่วงหน้าฝน
ทำให้เมืองทั่งเมืองต้องอยู่ใต้บาดาล ทำให้พ่อขุนเม็งรายตัดสินใจ
ย้านราชธานีไปสร้างเมืองใหม่ที่ตีนดอยสุเทพ พบซากโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่
วัดช้างค้ำ วัดธาตุน้อย วัดอีค่าง วัดปู่เปี้ย วัดธาตุขาว
วัดพญาเม็งราย วัดพระเจ้าองค์ดำ
วัดเจดีย์เหลี่ยม วัดกู่ป้าต้อม
เป็นต้น ซึ่งพ่อขุนเม็งรายโปรดเกล้าฯให้สร้างเมืองนี้ขึ้น
วัดเจดีย์เหลี่ยม
หรือ วัดกู่คำ ถนนสายเกาะกลางบริเวณเวียงกุมกาม
มีพระพุทธรูปบรรจุอยุ่ในซุ้มรวม 60 องค์ หลังจากที่วัดนี้ถูกปล่อยให้รกร้างก็ได้มีคหบดีชาวพม่าที่เกิดความเลื่อมใสได้บูรณะขึ้นมาใหม่
จึงมีศิลปะแบบพม่าเข้ามาแทนที่แบบดั้งเดิม
วัดศรีสุพรรณ ตั้งอยู่ ณ ถนนสายวัวลาย ภายในพระอุโบสถมี พระเจ้าเจ็ดตื้อ มีอายุราว 500 ปี
สร้างโดยพระเจ้าเมืองแก้ว เป็น ”พระพุทธอัศจรรย์” มีพลานุภาพสูงส่ง ทำให้ผู้ไปนั่งสมาธิมีความปิติอย่างรวดเร็ว
อุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาสร้างด้วยคอนกรีตและตกแต่งปิดทับด้วยแผ่นอลูมิเนียมและแผ่นเงิน
ที่สลักลวดลายหุ้มผนังอุโบสถทั้งหลังจึงนับเป็นอุโบสถเงินหลังแรกของโลก
วัดเจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2020 โดยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย
สถาปัตยกรรมสำคัญของวัดนี้ได้แก่ เจดีย์เจ็ดยอด
ลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย
ซึ่งมีฐานเจดีย์ประดับปูนปั้นรูปเทวดา ด้านนอกพระเจดีย์ก็เช่นกันประดับงานปูนปั้นรูปเทวดาทั้งนี่งขัดสมาธิและยืนทรงเครื่องที่มีลวดลายต่างกันไปดูงามน่าชม
นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญในพุทธประวัติ 7 แห่ง ได้แก่
โพธิบัลลังก์ อนิมิตรเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ อชปาลนิโครธเจดีย์ ราชายตนเจดีย์ และ
มุจจลินทเจดีย์ ปัจจุบันสถานที่สำคัญในพุทธประวัติเจ็ดแห่งเหลืออยู่ที่วัดเจ็ดยอดเพียงสามแห่ง
คือ อนิมิตเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ มุจจลินทเจดีย์ วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
คือ โปรดให้ประชุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่เพื่อชำระพระไตรปิฎก ใช้เวลานานถึง 1 ปี
จึงสำเร็จ นับเป็นการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก และเป็นครั้งแรกของไทย
และถือเป็นหลักปฏิบัติของพระสงฆ์ในล้านนา
ถนนคนเดินเชียงใหม่ อยู่บริเวณประตูท่าแพ
มีเฉพาะคืนวันอาทิตย์ สามารถเดินชมและเลือกซื้อของได้อย่างเพลิดเพลินสองข้างทาง
ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าพื้นเมือง กระเป๋า เสื้อผ้า สวยงามให้เลือกชมตลอดเส้นทาง
ส่วนถนนวัวลายเป็นถนนอีกสายหนึ่งที่มีเฉพาะในคืนวันเสาร์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อ
ว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" ดอยหลวง
หมายถึง ภูเขาขนาดใหญ่ ส่วนดอยอ่างกา มีเรื่องเล่าว่าห่างจากดอยอินทนนท์ไป 300
เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งบักษณะคล้าย ๆ อ่างน้ำ
แต่ก่อนนี้มีฝูงอีกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่าดอยอ่างกา ดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งพาดผ่านประเทศ เนปาล ภูฏา
พม่า และมาสิ้นสุดที่ดอยอินทนนท์แห่งนี้ วึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่ได้มีเพียงแต่เป็นดอยที่สูงที่สุดในประเทศเท่านั้น
แต่สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศยังดี มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งยังเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง
บนยอดดอยมีทางสำหรับการเดินชมป่าดิบชื้น และสัตว์ป่านานาชนิด
พระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2919 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา
ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่
ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่
ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน
พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัตรสามรอบ
แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่
6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้
จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น
ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ
และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้ากษัตริย์องค์ที่
12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก
พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ
ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ
พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ภายในจะมีสวนดอกไม้ให้เดินชมอย่างเพลินตา
นักท่องเที่ยวกรุณาแต่งกายสุภาพ
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นสวนที่จัดงานพืชสวนโลกเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่กรมวิชาการเกษตรได้ปรับปรุงจัดภูมิสถาปัตย์ตกแต่งพื้นที่โดยเฉพาะหอคำหลวง
สวนนานาชาติเฉลิม
วัดสวนดอก หรือ วัดบุปผาราม วัดนี้แต่เดิมเป็นพระราชอุทยานของกษัตริย์ล้านนาไทยสมัยแรกเริ่ม
มีสถาปัตยกรรมสำคัญคือ เจดีย์พระประธานทรงกลม กู่บรรจุอัฐิของเจ้าตระกูล ณ
เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าเก้าตื้อ วิ่งพญาเมืองแก้ว
โปรดหล่อขึ้น เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย
วัดอุโมงค์ (อุโมงค์เถรจันทร์) สร้างขึ้นในมัยพญาเม็งรายมหาราช
ราว พ.ศ. 1839 เพื่อให้ฝ่ายอรัญวาสีจำพรรษา ต่อมาพญากือนาทรงโปรดให้สร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พญาเถรจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสนาเจริญกรรมฐานสมาธิ
อุโมงค์นี้มีลักษณะเป็นกำแพง ภายในเป็นทางเดินหลายช่องทะลุผ่านถึงกันได้
ภายในอุโมงค์เคยมีภายจิตรกรรมฝาผนัง ส่วนใหญ่เป็นลายดอกบัว ดอกโบตั๋น และนกต่าง ๆ
สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่
ที่รวบรวมสัตว์ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เช่น หมีแพนด้า
ทูตสันถวไมตรีเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน หมีโคอาล่า
ทูตสันถวไมตรีเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย สวนนกเพนกวินและวนนกฟริ้นช์
มีรถไฟฟ้ารางเดี๋ยวพร้อมระบบปรับอากาศ นอกจากนั้นยังมีอวาเรียม2
ชั้น เพื่อการเรียนรู้ระบบนิเวสวิทยาทางน้ำ ชั้นล่างมีอุโมงค์ใต้น้ำยาว 133 เมตร
รวบพันธุ์ปลาน้ำจืดและน้ำเค็ม อีกทั้งยังมีโดมหิมะ
อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เป็นอุทยานแห่งชาติที่ประกอบด้วยพืชพรรณธรรมชาตินานาชนิด
สัตว์ป่าต่าง ๆ ในฤดูหนาวอากาศะหนาวมาก มีหมอกและน้ำค้างลงจนแทบมองไม่เห็นทาง
หมูบ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้วดอยปุย)
บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านมีทิวทัศน์สวยงามอย่างยิ่งและยังสามารถมองเห็นดอยอินทนนท์เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน
ภายในหมูบ้านมีพิพิธภัณฑ์ชาวเขา สวนน้ำตกดอยปุย และร้านขายของที่ระลุกพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าม้ง
วิ่งสมรถรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั่งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
ขุนช้างเคี่ยน เป็นพื้นที่เพาะพันธุ์พืชบริเวณที่ราบสูงขุนช้างเคี่ยน
ซึ่งในปลายเดือนธันวาคม-กลางเดือนมกราคม
นักท่องเที่ยวสามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยที่บานตลอดเส้น
อีกทั้งบรรยากาศตอนนั้นยังดีมาก เพราะเป็นฤดูหนาว อีกทั้งยังอยู่บนดอย
ตอนเช้าตรู่จะเห็นหมอกและเหมยตก จนเป็นทะเลหมอก หลังจากนั้นจะมีพระอาทิตย์ขึ้นทำให้เห็นแสงแรกของวันใหม่ที่มาตัดกับไอหมอกได้เป็นอย่างดี
โครงการหลวงอินทนนท เป็นโครงการที่รับผิดชอบส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้แก่กะเหรี่ยงและม้งในพื้นที่
ผลิตผลหลักของโครงการ คือ ผักและผลไม้เมืองน้ำต่าง ๆ
นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลุกดอกไม้ ห้องทดลองเพาะขยายพันธุ์
อีกทั้งยังสามารถชมแปลงปลูกดอกไม้ของชาวเขาในหมู่บ้านขุนกลาง ต.ห้วยกลาง อ.จอมทอง
ซึ่งอยู่บริเวณปากทางเข้าโครงการ และเป็นทางเดียวกับการเดินางไปดอยอินทนนท์
น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่
เดิมชื่อ "ตาดฆ้องโยง" น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนและตกสู่แอ่งน้ำเบื้อล่าง
ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
ซึ่งทำให้สะพานไม้ที่ทอดยาวไปตรงจุดหน้าผาเปียกและลื่น
ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการเดิน
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิศิริ เป็นพระมหาเจดีย์ที่ถูกสร้างโดยกองทัพอากาศและพสกนิกรชาวไทย
โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล
สร้างขึ้นเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ พ.ศ.2530
และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบในปี 2535 รอบ ๆ
บริเวณมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีสวนดอกไม้
และต้นไม้อยู่บริเวณโดยรอบ
อ่างกาหลวง พื้นที่เป็นหนองซับน้ำในหุบเขา
จุดที่น่าสนใจอยู่ที่ ป่าดิบเขาระดับสูง
ลักษณะพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นผสมเขตร้อนที่พบในเขตระดับสูง พืชพรรณที่อาศัยเกาะกิ่งไม้
ต้นน้ำลำธาร ที่ดูเพลินตาคือ กล้วยไม้ป่าที่ก้ำตามต้นไม้น้อยใหญ่ต่าง ๆ
และลักษณะของต้นไม้บนดอยอ่างกานี้
เป็นต้นข้าวตอกฤาษีที่ขึ้นตามพื้นเป็ต้นไม้ที่ต้องการความอุดมสมบูรณ์สูง
จะขึ้นสูงกว่าระดับ 2000 เมตร เท่านั้นและจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น อากาศเย็น
อีกทั้งยังเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องกุหลาบพันปี
กิ่วแม่ปาน สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทางชมธรรมชาติจริง
ๆ เพราะระหว่างทางจะพบป่าดิบเขา หลังจากนั้นเดินเลาะริมผา
จะรู้สึกถึงไอหมอกที่พัดผ่านหน้าเราอยู่ตลอดเวลา จะพบดอกกุหลาบพันปี
ที่ขึ้นตามที่สูง วึงมี 2 สายพันธุ์ คือ
พันธุ์สีขาวและสีแดง
การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอใบได้รับอนุญาติและไม่อนุญาติให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานในเส้นทาง
ช่วงฤดูฝนจะปิดเส้นทางเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว
สวนสนบ่อแก้ว อากาศที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี
มีจุดเด่นความงานที่ป่าสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบ จึงทำให้เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่ง
เนื่องจากความงานของสนแล้วยังมีหมอกและเหมยลงในช่วงเช้า
ผู้คนนิยมมาตั้งแคมป์จำนวนมาก
ดอยแม่ตะมานดอยแม่ตะมาน ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน
ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว และ บางส่วนของตำบล กึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง
จังหวัดเชียงใหม่ ดอยแม่ตะมานเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นจากภาพ
ดอกพญา เสือโคร่งซึ่งมีฉากหลังเป็นดอยเชียงดาว ดึงดูดใจ
ให้นักเดินทางหลายต่อหลายคนเดินทางมาที่นี่ เพื่อมาทำความ รู้จักกับสถานที่สวยๆแห่งนี้มากขึ้น
เมื่อมองจากยอด ดอยแม่ตะมาน ฝั่งตรงข้ามกันจะเห็นดอยหลวงเชียงดาวที่ ยิ่งใหญ่
ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้าเหมือนภาพวาดที่เหมือนมีใครมาปั้น แต่งไว้
เป็นภาพทิวทัศน์ที่แปลกตาของ
การชมดอกพญาเสือโครงในมุมทีไม่เหมือนใครสามารถมายืนอยู่ ในระดับความสูงที่ใกล้
เคียงกับดอยหลวง เชียงดาวที่มองเห็นไกลๆอยู่ตรงหน้า
ดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งจะผลิบานเต็มที่ช่วงปลายเดือนธันวาคม
ถึงกลางเดือนมกราคม
ดอยอ่างขาง อากาศบนดอยหนาวเย็นตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะช่วงธันวาคม-มกราคม เย็นมากจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณืกันหนาวให้พร้อม
บนดอยจะมีสถานีเกษตรที่เป็นแปลงเพาะปลุกพืชผัก และดอกไม้เมืองหนาวต่าง ๆ
นอกจากนั้นยัง มีหมู่บ้านชาวเขาที่ยังไม่ละทิ้งวัฒนธรรมดั่งเดิม
จุดชมวิวกิ่วลม อยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนจะถึงทางแยกซึ่งจะไปหมู่บ้าน ปะหล่องนอแลทางหนึ่ง
และหมูบ้านขอบด้งทางหนึ่ง
สามารถชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม
มองเห็นทิวเขารอบด้าน หากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรด้วย
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน
ยอดที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยใหญ่น้อยมากมาย
ฤดูหนาวอากาศจะเย็น ลมแรง มีจุดชมวิวจากบนยอดเขา สามรถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้
ตอนเช้า ๆ จะมีทะเลหมอกเรียงรายกันปกคลุมทั่วบริเวณ
นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนและกลางเต็นท์นอน
บ่อสร้าง สันกำแพง เป็นอำเภอหนึ่งของเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงด้านหัตถกรรม เชาน การทอผ้าไหม
ผ้าฝ้าย คุณภาพดี แต่ราคาย่อมเยาว์
นอกจากนี้ยังมีโรงงานทอผ้าที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิธีการทอ
รวมทั้งการเลี้ยงตัวไหม นอกจากนี้ ยังมีร้านขายเครื่องเงิน เครื่องไม้แกะสลัก
เครื่องเขิน เครื่องปั้นดินเผา และร่มชึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของสันกำแพง
บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ
สถานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยสวนดอกไม้ มีบริการห้องอาบน้ำแร่ ที่พัก
สถานที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร
การเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 750 กิโลเมตร
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างสะดวกในหลายวิธี
ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ และเครื่องบิน
โดยรถไฟเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงหลายขบวน
ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือwww.railway.co.th
โดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน)
จากนั้นแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง
ถึงนครสวรรค์ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตาก ลำปาง
แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำพูน จนถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 750
กิโลเมตร
โดยรถประจำทางมีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ
(หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10
ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท
ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th นครชัยแอร์ โทร. 0-2936-0009 www.nca.co.th ทันจิตต์ทัวร์ โทร. 0 2936 3210 นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ โทร. 0 2936 2207
สมบัติทัวร์ โทร. 0 936 2495-8 สหชาญทัวร์ โทร. 0 2936 2762 สยามเฟิสท์ทัวร์ โทร.
0 2954 3601-7 ฯลฯ
ปัจจุบันบริษัท
ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่www.thaiticketmajor.com นครชัยแอร์ www.nca.co.th นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
โดยเครื่องบินการบินไทยบริการเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ทุกวัน โทร. 0 2356 1111 หรือ www.thaiairways.com
สายการบินบางกอกแอร์เวย์สบริการเที่ยวบิน
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โทร .0 2270 6699 หรือwww.bangkokair.com
สายการบินวันทูโกมีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ทุกวัน โทร. 1126 หรือ www.fly12go.com
สายการบินนกแอร์บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ทุกวัน โทร. 1318 หรือ www.nokair.com
สายการบินไทยแอร์เอเชียบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ทุกวัน โทร. 0 2515 9999 หรือwww.airasia.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น